Posted on

งานจริยธรรม

1.หลักการและเหตุผล

    เด็กในสถานสงเคราะห์ไม่มีโอกาสที่จะได้รับการอบรมบ่มนิสัยจากพ่อแม่  และญาติพี่น้องอย่างเด็กทั่วไป  สถานสงเคราะห์จึงต้องทำหน้าที่เพื่อปลูกฝังจริยธรรมที่ดีให้เด็กได้รู้จักคิดดี  ทำดี  พูดดี  อยู่ในกรอบวัฒนธรรมของสังคม  เมื่อเจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่จะได้อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข

 

2.วัตถุประสงค์

  1. เพื่อปลูกฝังสิ่งที่ดีงามให้แก่เด็ก
  2. เพื่อเด็กจะได้รู้ถึงกฎเกณฑ์ในชีวิตและสังคมอย่างถูกต้อง
  3. เพื่อได้รู้ถึงการอยู่ร่วมกันกับบุคคลอื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข
  4. เพื่อเด็กจะได้ฝึกฝนตนเองสามารถช่วยเหลือคนอื่นได้

 

3.กลุ่มเป้าหมาย

    เด็กอายุ 2-6 ปี  จะได้รับการอบรมจริยธรรมทุกคน

 

4.วิธีดำเนินงาน

  1. สอดแทรกการสอนจริยธรรมในกิจกรรมประจำวัน
  2. นำเด็กเข้าร่วมกิจกรรมตามปกติทุกวัน  ตามโอกาสพิเศษและวันสำคัญทางศาสนา
  3. นำเด็กไปวัด  ตามสถานที่ต่างๆ ที่เหมาะสม

 

5.งบประมาณ

    จัดหาอุปกรณ์เล็กน้อย  โดยใช้งบประมาณของสถานสงเคราะห์

  

6.ผู้รับผิดชอบโครงการ

  1. ประธานมูลนิธิฯ
  2. คณะกรรมการฝ่ายพยาบาลและเด็กอ่อน ฝ่ายเด็กอนุบาล
  3. นักพัฒนาการเด็ก  ครูสอนเด็กก่อนวัยเรียน
  4. พี่เลี้ยงเด็ก

 

7.ระยะเวลาดำเนินงาน

    1  ตุลาคม 2556  ถึง  30  กันยายน   2557

 

8.ผลที่คาดว่าจะได้รับ

  1. เด็กได้รับการปลูกฝังจริยธรรมที่ดีงาม
  2. เด็กจะได้รับการฝึกฝนให้มีจิตใจอ่อนโยน  มีระเบียบวินัย
  3. เด็กจะได้รู้จักการเคารพผู้อื่น  มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่ผู้อื่น
Posted on

โครงการสร้างภูมิคุ้มกันโรค

1.หลักการและเหตุผล

    มูลนิธิสงเคราะห์เด็กกำพร้าบ้านกิ่งแก้ว  มีภารกิจที่จะต้องจัดบริการด้านการดูแลรักษาสุขภาพอนามัยของเด็กทุกคน  รวมถึงการให้คุ้มกันโรคแก่เด็ก  เพื่อเด็กได้รับวัคซีนคุ้มกันโรคครบถ้วนส่งผลให้สุขภาพสมบูรณ์  แข็งแรงและก่อให้เกิดการพัฒนาทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ  โดยเฉพาะวันทารกตั้งแต่   4 เดือนครึ่ง – 6 ปี (ที่รับจากบ้านเด็กเวียงพิงค์)

 

2.วัตถุประสงค์

  1. เพื่อให้ภูมิคุ้มกันโรคที่จำเป็นแก่เด็กทุกคน
  2. เพื่อเสริมสร้างความสมบูรณ์ทางด้านสุขภาพอนามัยแก่เด็กทุกคน

 

3.กลุ่มเป้าหมาย

    เด็กในมูลนิธิสงเคราะห์เด็กกำพร้าบ้านกิ่งแก้ว

 

4.วิธีดำเนินงาน

  1. สำรวจเด็กที่ยังไม่ได้รับวัคซีน
  2. ตรวจเช็ควัน  เวลาการให้วัคซีนของเด็กแต่ละคนทุกเดือน
  3. นำเด็กที่ไม่ได้รับวัคซีน  และเด็กที่ครบกำหนดรับวัคซีนไปรับวัคซีนที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่

 

5.งบประมาณ

    วัคซีนได้รับการอนุเคราะห์จากโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่และพยาบาลของโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่เป็นผู้ฉีดให้

  

6.ผู้รับผิดชอบโครงการ

  1. ประธานมูลนิธิฯ
  2. คณะกรรมการฝ่ายพยาบาลและเด็กอ่อน ฝ่ายเด็กก่อนวัยเรียน
  3. นักสังคมสงเคราะห์ ,ครูพัฒนาการเด็ก ,ครูสอนเด็กก่อนวัยเรียน
  4. พี่เลี้ยงเด็ก

 

7.ระยะเวลาดำเนินงาน

    1  ตุลาคม 2556  ถึง  30  กันยายน  2557

 

8.ผลที่คาดว่าจะได้รับ

    เด็กทุกคนได้รับวัคซีนภูมิคุ้มกันโรคที่จำเป็นทุกชนิดครบถ้วนตามระยะเวลาที่ควรจะได้รับ  ส่งผลให้เด็กปลอดภัยจากโรคต่างๆ ที่สามารถป้องกันได้  ช่วยให้เด็กทุกคนมีสุขภาพสมบูรณ์ มีพัฒนาการที่ดี

Posted on

โครงการส่งเสริมสุขภาพ

1.หลักการและเหตุผล

    การดูแลสุขภาพของเด็กในมูลนิธิสงเคราะห์เด็กกำพร้าบ้านกิ่งแก้วที่ให้การเลี้ยงดูเด็กอ่อน อายุตั้งแต่ 3 เดือนครึ่งถึง 6 ปี เป็นบริการหนึ่งที่สำคัญยิ่ง  เพราะเด็กในช่วงอายุนี้จะมีการเจ็บป่วยมากกว่าช่วงอายุอื่นอยู่แล้ว  จำเป็นต้องเลี้ยงดูใกล้ชิดเป็นพิเศษ  นอกจากการเจ็บป่วยปกติ เช่น เป็นไข้  เป็นหวัด  ท้องเสีย  โรคผิวหนัง  กลาก  หิด ฯลฯ และเด็กบางคนมีสุขภาพที่ไม่สมบูรณ์มาตั้งแต่มารดาตั้งครรภ์  ทำให้เด็กเกิดมามีสุขภาพที่ไม่สมบูรณ์ ภาระหน้าที่ที่หนักยิ่ง ต้องรับผิดชอบดูแลเด็ก 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะมีการเจ็บป่วยตามปกตอหรืออุบัติเหตุฉุกเฉินฝ่ายพยาบาลจะต้องดูแลในเบื้องต้นก่อนที่จะนำส่งโรงพยาบาลหากมีอาการมาก  ทั้งนี้ภายใต้การกำกับการดูแลและได้รับการชี้แนะจากคณะกรรมการฝ่ายเด็กอ่อนและเด็กเล็ก  และได้รับการอนุเคราะห์จากแพทย์โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ที่เข้ามาช่วยตรวจรักษาเด็กในมูลนิธิสงเคราะห์

 

2.วัตถุประสงค์

  1. เพื่อดูแลรักษาสุขภาพทั่วไปของเด็กทุกคน
  2. เพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยของเด็กตามคำสั่งแพทย์
  3. เพื่อดูแลรักษาเด็กในเบื้องต้นทันท่วงที  เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กมีอาการป่วยมากขึ้น
  4. เพื่อนำเด็กที่มีอาการป่วยมากไปรักษาที่โรงพยาบาล

 

3.กลุ่มเป้าหมาย

    เด็กทุกคนในสถานสงเคราะห์ จำนวน  45  คน

 

4.วิธีดำเนินงาน

  1. ดูแลรักษาสุขภาพเด็กประจำทุกวัน
  2. รักษาอาการป่วยอย่างต่อเนื่อง(ภายใต้คำสั่งแพทย์จนกว่าจะหายเป็นปกติ)
  3. ดูแลปฐมพยาบาลเบื้องต้น  เมื่อเกิดอุบัติเหตุ
  4. เมื่อเด็กป่วยจนเกินกำลังที่ฝ่ายพยาบาลจะดูแลได้ จะนำส่งโรงพยาบาลทันที
  5. จัดสภาพแวดล้อมในมูลนิธิสงเคราะห์ฯให้เหมาะสม เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
  6. ประชุมวางแผนงานการดำเนินงาน  ร่วมกันในกลุ่มผู้เกี่ยวข้อง  เช่น คณะกรรมการฝ่ายเด็กอ่อนและเด็กเล็ก  ฝ่ายพยาบาล
  7. จัดทำแฟ้มข้อมูลประจำตัวเด็ก เพื่อสะดวกในการนำเด็กให้แพทย์ตรวจ(แพทย์มาตรวจที่บ้านกิ่งแก้ว)และนำเด็กส่งโรงพยาบาล
  8. ประเมินผล

 

5.งบประมาณ

  1. ยาที่จำเป็นและขาดแคลนบางอย่างใช้งบประมาณของมูลนิธิสงเคราะห์ฯ
  2. ขอความอนุเคราะห์จากโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ในการรักษาพยาบาล  และค่ายา

 

6.ผู้รับผิดชอบโครงการ

  1. ประธานมูลนิธิฯ
  2. คณะกรรมการฝ่ายพยาบาลและเด็กอ่อน ฝ่ายเด็กก่อนวัยเรียน
  3. นักสังคมสงเคราะห์ ,ครูพัฒนาการเด็ก ,ครูสอนเด็กก่อนวัยเรียน
  4. พี่เลี้ยงเด็ก

 

7.ระยะเวลาดำเนินงาน

    1 ตุลาคม 2556  ถึง  30 กันยายน  2557

 

8.ผลที่คาดว่าจะได้รับ

    เด็กในมูลนิธิสงเคราะห์เด็กฯทุกคนได้รับการดูแลสุขภาพและรักษาพยาบาลได้อย่างเหมาะสมและท่วงที

Posted on

โครงการวันสำคัญ

1.หลักการและเหตุผล

    เด็กในสถานสงเคราะห์เป็นเด็กที่ขาดโอกาสที่จะใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว  ในความเป็นเด็กย่อมรับรู้และต้องการที่จะมีส่วนร่วมกิจกรรมพิเศษในโอกาสและวันสำคัญต่างๆ  อาทิ  เช่น  วันลอยกระทง  วันสงกรานต์  วันมาฆบูชา  วันแม่แห่งชาติ  วันพ่อแห่งชาติ  วันเด็ก  วันขึ้นปีใหม่ ฯลฯ  เช่นเดียวกับเด็กทั่วไป  เด็กเหล่านี้ควรได้เรียนรู้การใช้ชีวิตในโลกของความเป็นจริงภายนอกสถานสงเคราะห์บ้าง  ซึ่งเมื่อโตขึ้นหรือมีโอกาสได้ครอบครัวไม่ว่าจะเป็นครอบครัวบุญธรรม หรือครอบครัวของเขาเองก็ตาม  จะทำให้เขาสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข  และมีคุณค่า

 

2.วัตถุประสงค์

    เพื่อปลูกฝังให้เด็กได้มีประสบการณ์ตรงกับวันสำคัญต่างๆ

 

3.กลุ่มเป้าหมาย

    เด็กก่อนวัยเรียน อายุ 2-6 ปี ที่อยู่ในการดูแลของมูลนิธิฯ

 

4.วิธีดำเนินงาน

  1. กำหนดกิจกรรมในวันสำคัญ  และจัดทำแผน
  2. จัดหาวัสดุอุปกรณ์  เตรียมสถานที่
  3. แจ้งให้เด็กทราบและจัดกิจกรรมให้กับเด็กโดยขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย

 

5.ระยะเวลาดำเนินงาน

    1 ตุลาคม  2556  ถึง 30 กันยายน  2557

 

6.งบประมาณ

    ใช้งบประมาณของสถานสงเคราะห์และรับบริจาคจากภาคเอกชน

7.ผู้รับผิดชอบโครงการ

  1. ประธานมูลนิธิฯ
  2. คณะกรรมการฝ่ายพยาบาลและเด็กอ่อน ฝ่ายเด็กก่อนวัยเรียน
  3. นักสังคมสงเคราะห์ ,ครูพัฒนาการเด็ก ,ครูสอนเด็กก่อนวัยเรียน
  4. พี่เลี้ยงเด็ก

 

8.ผลที่คาดว่าจะได้รับ

  1. เด็กในสถานสงเคราะห์ได้มีส่วนร่วม  และปลูกฝังให้ปฏิบัติตนถูกต้องตามวันสำคัญต่างๆ
  2. เด็กได้รับประสบการณ์ตรงส่งผลให้เกิดประสบการณ์ชีวิตที่ดี
Posted on

การนันทนาการ

1.หลักการและเหตุผล

    เด็กในสถานสงเคราะห์ไม่มีโอกาสที่จะได้รับความอบอุ่นจากครอบครัว  เช่น  เด็กทั่วไปซึ่งอาจทำให้เด็กมีความรู้สึกขาดความรักความอบอุ่น  รู้สึกเป็นปมด้อย  และมีความตึงเครียดได้ จึงได้จัดให้มีกิจกรรมนันทนาการทั้งในและนอกสถานสงเคราะห์  เพื่อให้เด็กผ่อนคลายความตึงเครียดได้ร่วมกิจกรรมอย่างสนุกสนานและมีความสุข

 

2.วัตถุประสงค์

  1. เพื่อเด็กจะได้ผ่อนคลายอารมณ์
  2. เพื่อเด็กจะได้ร่วมกิจกรรมกับเพื่อนๆ อย่างสนุกสนาน
  3. เพื่อเด็กจะได้มีส่วนร่วมแสดงออกตามความสามารถของตัวเอง
  4. เพื่อเป็นการส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์ของเด็ก

 

3.กลุ่มเป้าหมาย

    เด็กอายุ 2-6 ปี  ที่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิฯ

 

4.วิธีดำเนินงาน

    กำหนดกิจกรรมนันทนาการต่างๆ  เช่น  เกมส์  เพลง  การแสดงของเด็ก  การเรียนดนตรี  การร่วมกิจกรรมเล่นศิลปะ  กับอาสาสมัครที่มาจัดกิจกรรม  การออกกำลังตามจังหวะเพลงทุกเช้าหน้าเสาธง  ฯลฯ

5.งบประมาณ

    ใช้สิ่งของบริจาคภาคเอกชน

 

6.ผู้รับผิดชอบโครงการ

  1. ประธานมูลนิธิฯ
  2. คณะกรรมการฝ่ายพยาบาลและเด็กอ่อน ฝ่ายเด็กก่อนวัยเรียน
  3. นักสังคมสงเคราะห์,ครูพัฒนาการเด็ก,ครูสอนเด็กก่อนวัยเรียน
  4. พี่เลี้ยงเด็ก

 

7.ระยะเวลาดำเนินงาน

    1  ตุลาคม  2556   –  30  กันยายน   2557

 

8.ผลที่คาดว่าจะได้รับ

  1. เด็กมีพัฒนาการทางด้านอารมณ์  สังคม  มีความสนุกสนาน  ร่าเริงแจ่มใส
  2. เด็กได้แสดงออกตามความสามารถของตัวเองและเกิดความภูมิใจในตัวเอง
Posted on

การทัศนศึกษา

1.หลักการและเหตุผล

    เด็กกำพร้าและเด็กถูกทอดทิ้งในสถานสงเคราะห์ไม่มีบิดามารดาที่จะพาไปทัศนศึกษา หรือพาไปพบเห็นสิ่งแปลกใหม่และโลกภายนอกอย่างเด็กทั่วไป  ทำให้เด็กขาดประสบการณ์ชีวิตในส่วนนี้  ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ที่เด็กควรจะได้เรียนรู้อันจะเป็นประโยชน์ต่อการเตรียมตัวอยู่กับครอบครัวบุญธรรมและการเจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต  ซึ่งจะต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม

 

2.วัตถุประสงค์

  1. เพื่อให้เด็กกำพร้า  เด็กถูกทอดทิ้งในสถานสงเคราะห์มีโอกาสเรียนรู้และมีประสบการณ์ต่างๆ  อย่างเหมาะสม
  2. เพื่อให้เด็กเรียนรู้การปรับตัวให้เข้ากับสังคมที่ดี
  3. เพื่อส่งเสริมให้เด็กมีความเชื่อมั่นในตัวเองในการออกไปตามสถานที่ต่างๆ
  4. เพื่อส่งเสริมความมั่นคงทางอารมณ์และจิตใจ

 

3.กลุ่มเป้าหมาย

       เด็กในสถานสงเคราะห์ทั้งเด็กชาย  เด็กหญิง  อายุระหว่าง 2-6 ปี ที่อยู่ในดความดูแลของมูลนิธิฯ

 

4.วิธีการดำเนินงาน

  1. กำหนดแผน  สถานที่ที่จะไปทัศนศึกษา  วัน  เวลา  และประมาณค่าใช้จ่ายที่จำเป็น
  2. ติดต่อเจ้าหน้าที่ที่จะพาเด็กไป  โดยอาจขอความอนุเคราะห์เข้าชมฟรีหรือจัดหางบประมาณในการเข้าชมแล้วแต่กรณี
  3. จัดหาอาสาสมัครเข้าร่วมกิจกรรม

 

5.ระยะเวลาดำเนินงาน

       ตามปีงบประมาณ

 

6.งบประมาณ

       ใช้งบประมาณของสถานสงเคราะห์  หรือขอความอนุเคราะห์เข้าชมฟรีแล้วแต่กรณี

 

7.ผู้รับผิดชอบโครงการ

  1. ประธานมูลนิธิฯ
  2. คณะกรรมการฝ่ายพยาบาลและเด็กอ่อน ฝ่ายเด็กก่อนวัยเรียน
  3. นักสังคมสงเคราะห์ ,ครูพัฒนาการเด็ก , ครูสอนเด็กก่อนวัยเรียน
  4. พี่เลี้ยงเด็ก

8.ผลที่คาดว่าจะได้รับ

      เด็กจะได้เรียนรู้และมีประสบการณ์ชีวิตที่กว้างขวาง  เช่นเดียวกับเด็กในครอบครัว และเด็กได้กล้าแสดงออก  มีความมั่นใจในการพบปะบุคคลอื่นในสังคมต่อไป

Posted on

การเตรียมความพร้อมก่อนวัยเรียน

1.หลักการและเหตุผล

มูลนิธิฯ นอกจากจะมีหน้าที่เลี้ยงดูเด็กอายุ 3 เดือน  ถึง 6 ปีแล้ว  ยังต้องมีการเตรียมความพร้อมให้แก่เด็กโตที่มีอายุตั้งแต่ 2-6 ปี เพื่อให้มีพื้นฐาน ความพร้อมที่จะไปเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาต่อไปไม่ว่าเด็กนั้นจะต้องอยู่ในสถานสงเคราะห์หรือเด็กที่โตขึ้นและย้ายไปอยู่สถานสงเคราะห์อื่น  หรือไปอยู่กับครอบครัวบุญธรรมซึ่งจะต้องไปเรียนที่โรงเรียนภายนอกก็ตาม  เป็นหน้าที่ของสถานสงเคราะห์ที่จะให้โอกาสในการศึกษาแก่เด็กทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน

 

2.วัตถุประสงค์

  1. เพื่อวางพื้นฐานกี่ศึกษาชั้นปฐมวัยให้แก่เด็ก
  2. เพื่อให้เด็กมีความพร้อมที่จะเรียนในชั้นสูงต่อไป

 

3.กลุ่มเป้าหมาย

เด็กก่อนวัยเรียน อายุ 2-6 ปี  ที่อยู่ในการดูแลของมูลนิธิฯ

 

4.วิธีดำเนินงาน

  1. จัดกลุ่มเด็กที่อยู่ในวัยสมควรที่จะเตรียมความพร้อม
  2. จัดทำแผนการสอนให้เหมาะสมกับวัยและความสามารถของเด็ก
  3. จัดกิจกรรมตามแผนที่วางไว้

 

4.ประเมินผล

 

5.ระยะเวลาดำเนินงาน

 

6.งบประมาณ

ใช้งบประมาณของสถานสงเคราะห์และการบริจาคจากภาคเอกชน

 

7.ผู้รับผิดชอบโครงการ

  1. ประธานมูลนิธิฯ
  2. คณะกรรมการฝ่ายพยาบาลและเด็กอ่อน ฝ่ายเด็กก่อนวัยเรียน
  3. นักสังคมสงเคราะห์ ,ครูพัฒนาการเด็ก,  ครูสอนเด็กก่อนวัยเรียน
  4. พี่เลี้ยงเด็ก

 

8.ผลที่คาดว่าจะได้รับ

เด็กกลุ่มอายุ 2-6 ปี ในสถานสงเคราะห์จะได้มีพื้นฐานการศึกษาระดับก่อนปฐมวัย ช่วยให้มีความพร้อมที่จะเรียนต่อไปในระดับที่สูงขึ้น